การออกแบบเว็บไซต์เป็นศาสตร์และศิลปะที่คนทำต้องใส่ใจรายละเอียดอย่างมาก โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนหันมาทำเว็บไซต์ออนไลน์เพื่อตั้งใจให้เข้าถึงลูกค้าที่นิยมหาร้านค้าที่น่าสนใจจากมือถือมากขึ้นเรื่อย ๆ

แนะนำให้ทำเว็บไซต์อย่างไร จึงจะทำให้ลูกค้าสนใจมากขึ้น

1. มีเป้าหมายชัดเจน

การวางวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในการทำเว็บไซต์เป็นเรื่องแรกที่ต้องเข้าใจ เพื่อการทำงานในลำดับต่อไปได้ดีที่สุด เช่น หากต้องการให้แบรนด์สินค้ารังนกของคุณ ตีตลาดคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ ก็ต้องคิดว่าจะใส่เนื้อหาและผลิตคลิปภาพประกอบอย่างไรจึงจะเข้าถึงลูกค้า ควรใช้ใครเป็นนางแบบประจำเว็บไซต์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัย ควรใช้สีและฟอนต์ตัวอักษรแบบใหม่ ๆ ที่สร้างจุดดึงดูดและทำให้ผู้คนจำได้ เป็นต้น

2. การทำ sitemap

หากเว็บไซต์เปรียบเทียบได้กับหนังสือเล่มหนา ๆ เกี่ยวกับธุรกิจของคุณ ก็ควรมีส่วน sitemap ที่เปรียบได้กับสารบัญของหนังสือที่จะทำให้ผู้เข้ามาชมรู้ได้ว่าในเว็บไซต์มีองค์ประกอบอะไรบ้างให้เข้าชม มีการจัดหมวดหมู่สินค้า มีส่วนการโฆษณา การติดต่อ รวมถึงประวัติบริษัทที่แยกจากการชัดเจน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือแบบมืออาชีพและยังดีต่อระบบการเก็บข้อมูล SEO ของ Google ทำให้มีอันดับดีขึ้นในการสืบค้นผ่าน Google search ได้ด้วย

3. สร้างความน่าเชื่อถือจากผู้ใช้สินค้าจริง

คงจะไม่ดีแน่หากเว็บไซต์ของคุณมีข้อมูลด้านเดียว คือด้านของผู้ผลิต ที่ส่วนใหญ่จะมีการให้ข้อมูลเชิงบวกมากกว่าด้านลบ ซึ่งจากการวิจัยทางการตลาดพบว่าผู้คนจะสนใจผลการรีวิวจากผู้ใช้จริง ซึ่งจะต้องมีทั้งส่วนที่ประทับใจและต้องการให้ปรับปรุงในสินค้าหนึ่ง ๆ เสมอ หากคุณต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าก็ต้องมีส่วนให้ลูกค้าที่เคยใช้บริการแสดงความเห็นหรือมีส่วนร่วมในการรีวิวสินค้าได้อย่างเปิดกว้าง จะเป็นผลดีในระยะยาวต่อเว็บไซต์แน่นอน

4. มีหลายช่องทางติดต่อ

นอกจากเว็บไซต์ที่คนนิยมใช้หาข้อมูลแล้ว ก่อนการซื้อสินค้า คนเรามักอยากถามข้อมูลเชิงลึกเพื่อตัดสินใจอีกครั้ง โดยอาจต้องการโทรศัพท์สอบถาม หรือ Line ถามแบบส่วนตัว ดังนั้นเว็บไซต์ที่ดีจึงต้องมีหลายช่องทางรองรับการติดต่อตามวัตถุประสงค์ของลูกค้าที่หลากหลายด้วย ทั้งนี้ ด้านหน้าจอของเว็บไซต์ก็ควรมีระบบ chatbot ที่ทำให้กลุ่มผู้ใช้งานถามตอบได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีผลการวิจัยพบว่าสอดคล้องกับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่ต้องการลดเวลารอคอยให้น้อยที่สุดด้วย

จะเห็นได้ว่า การออกแบบเว็บไซต์ให้น่าสนใจ มีหลายจุดที่ต้องพัฒนาร่วมกัน เราหวังว่าบทความนี้จะให้แนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อคนทำเว็บไซต์ขายของให้ประสบความสำเร็จต่อไป

การออกแบบเว็บไซต์นั้น ไม่ต่างอะไรจากการออกแบบงานสถาปัตยกรรม งานตกแต่งภายใน โดยมีหลักสำคัญที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือ การเข้าใจถึงผู้ใช้ว่าต้องการใช้งานอะไร การแนะนำเส้นทางให้กับผู้ใช้ไปยังส่วนต่าง ๆ ได้สะดวก ใช้งานง่าย มีความสวยงาม มีความปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว และได้รับสิ่งที่ต้องการมองหาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในยุคสมัยปี 2019-2020 แนวโน้มของการออกแบบเว็บไซต์จะเป็นอย่างไร ในบทความนี้มีข้อเสนอแนะให้พิจารณากันดังนี้

ความเร็วต้องมาก่อน

แม้ความเร็วการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะเริ่มเข้าสู่ยุค 5G ในอนาคตอันใกล้แล้ว แต่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะจากสมาร์ทโฟน ต้องเสียค่าใช้จ่ายจากแพ็กเกจความเร็ว และบางแพ็กเกจก็คิดตามปริมาณใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทุกระดับเข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่ายและประหยัดเวลาและปริมาณข้อมูล จึงควรทำเว็บไซต์ให้โหลดได้รวดเร็วและกินทรัพยากรระบบน้อยที่สุด ผู้พัฒนาเว็บไซต์จึงควรตรวจและปรับปรุงเรื่องความเร็วการโหลดหน้าเว็บไซต์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและสมาร์ทโฟนอยู่เสมอ

การนำทางที่ชัดเจน

เมื่อผู้ใช้เข้ามาในเว็บไซต์แล้ว เขาได้สิ่งที่ต้องการรู้ข้อมูลหรือไม่ หลีกเลี่ยงการหลอกลวงผู้ใช้ด้วยเทคนิคทาง SEO แบบสายเทา ที่เน้นการติดอันดับด้วยคีย์เวิร์ดตัวที่ต้องการ แต่กลับไม่ได้เสนอเนื้อหาหรือคำตอบที่ให้คุณค่ากับผู้ชมที่แวะเข้ามา ประสบการณ์ที่ไม่ดี จะส่งผลทั้งต่อเว็บไซต์นั้นเองและทำให้ผู้ใช้ขาดความเชื่อมั่นในผลการค้นหา ซึ่งแน่นอนว่าสุดท้ายแล้ว Google อาจจะลดอันดับเว็บไซต์ที่ไม่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้ อย่าลืมช่องค้นหาที่เห็นได้ชัด ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพในการแสดงผลการค้นหาที่ตรงประเด็นกับคำค้นหาที่ผู้ใช้งานพิมพ์มา

คำนึงถึงความเป็นมิตรต่อผู้ใช้มือถือสมาร์ทโฟน

ในยุคสมัยนี้ผู้ชมกว่า 60-70% ต่างใช้มือถือสมาร์ทโฟนในการค้นหาข้อมูลและเยี่ยมชมเว็บไซต์เพื่อหาสินค้าและบริการที่ต้องการ ดังนั้นเว็บไซต์ต่าง ๆ จึงต้องหันมาพัฒนาระบบที่รองรับการชมเว็บไซต์ผ่านมือถืออย่างจริงจัง การเข้าเว็บผ่านแอปพลิเคชันก็มีแนวโน้มลดลง แต่ PWA หรือ Progressive Web App จะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เวลาเข้าเว็บไซต์ผ่านมือถือจะรวดเร็ว และใช้งานง่ายเพราะมีอินเทอร์เฟซเหมือนการใช้งานแอปพลิเคชัน มีการแจ้งเตือนเนื้อหาใหม่แบบ Push Notification เหมือนการใช้แอป โดยที่ผู้ทำเว็บไซต์สามารถเห็นการอัปเดตได้แบบเรียลไทม์

เนื่องจากข้อมูลมีราคาค่างวดที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต้องจ่าย ผู้ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์จึงควรใส่ใจเรื่องความรวดเร็วในการเสนอข้อมูล ความถูกต้องของข้อมูล เข้าถึงส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ง่าย ไม่ทำให้ผู้ใช้งานสับสน เว็บไซต์ที่ได้รับการออกแบบที่ดีและสร้างประสบการณ์ที่พึงพอใจให้กับผู้ใช้งาน จะทำให้ผู้ใช้งานจดจำได้และอยากกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์อีก หรือลงทะเบียนเพื่อเป็นผู้ซื้อสินค้าได้ในที่สุด

เหตุผลที่ผู้เริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็กควรให้ความสำคัญกับการทำเว็บไซต์ เพราะเป็นช่องทางโฆษณาที่ประหยัดต้นทุน เข้าถึงผู้คนจำนวนมากอย่างรวดเร็วและใช้ทำการตลาดได้ในระยะยาว เชื่อหรือไม่ว่าการมีเว็บไซต์จะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจของคุณในสายตาของลูกค้าที่ค้นหาข้อมูลสินค้า ชื่อบริษัท สถานที่อยู่ และการติดต่อทุกช่องทาง อีกทั้งการออกแบบเว็บยังสื่อถึงประสิทธิภาพการบริการที่จะมองข้ามไม่ได้เลย

คำแนะนำต่อนี้เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้ผู้เริ่มต้นออกแบบเว็บไซต์ประสบความสำเร็จง่ายขึ้น

1.เว็บไซต์ที่ดี ต้องออกแบบให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว รวมทั้งเชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติม สร้างความไว้วางใจและความประทับใจทำให้ลูกค้าสนใจผลิตภัณฑ์และบริการของเรามากขึ้น หากธุรกิจของคุณมีสินค้าจำนวนมาก ควรใช้รูปภาพเป็นสื่ออธิบายคุณสมบัติของสินค้าอย่างชัดเจนด้วยตัวเอง เพราะรูปภาพสามารถดึงดูดสายตามากกว่าถ้อยคำใด ๆ เคล็ดลับการออกแบบเว็บที่น่าสนใจคือเลือกใช้รูปที่มีคุณภาพสูงแสดงเป็นภาพหลักในหน้าแรก ใช้รูปสวยน่าสนใจอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเน้นภาพสินค้าและแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างเด่นชัด ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจภาพรวมของเว็บไซต์และช่วยให้การทำธุรกิจมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างแน่นอน

2.คำนึงถึงการใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ ทุกวันนี้เราอยู่ในสังคมที่ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในการค้นหาข้อมูล การออกแบบหน้าเว็บต้องสอดคล้องกับการใช้งานบนหน้าจอมือถือ ช่วยให้เรียกดูเนื้อหารวดเร็ว รูปแบบเมนูและปุ่มต่าง ๆ ใช้ง่ายขึ้น ขนาดของตัวอักษรและรูปภาพต้องอ่านได้ไม่ลำบาก ไม่ควรใส่ลูกเล่นมากเกินไปเพื่อให้หน้าข้อมูลได้เร็ว อย่าออกแบบเมนูมากเกินไปหรือมีลิงก์ภายในที่ซับซ้อนจะทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสนและหันไปมองหาเว็บอื่นแทน เมื่อเข้าเว็บไซต์แล้วใช้ง่าย ถามหาอะไรพบคำตอบทั้งหมด รวมทั้งไม่มีหน้าต่างป็อปอัพมารบกวนสายตาด้วยจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างธุรกิจกับลูกค้า

3.เนื้อหาตรงความต้องการ การออกแบบเว็บไซต์จะต้องทำเนื้อหาที่มีคุณภาพและตอบโจทย์สิ่งที่ลูกค้าค้นหา ไม่ว่าจะเป็นบทความ ข่าวสาร รายละเอียดสินค้าหรือบริการ เลือกใช้บริการนักเขียนมืออาชีพสร้างสรรค์บทความที่น่าอ่าน ข้อมูลถูกต้องชัดเจนและตรงกับความต้องการของลูกค้า ลองเข้าดูเว็บไซต์สินค้าแบรนด์ดังว่ามีบทความลักษณะใดบ้างแล้วนำไปเป็นแนวทางปรับใช้กับคอนเทนต์ในเว็บไซต์เพื่อให้โดนใจลูกค้ายุคนี้มากที่สุด

4.การสื่อสารโต้ตอบกับลูกค้า เป็นข้อได้เปรียบสำหรับธุรกิจที่มีเว็บไซต์ เพราะมีการสื่อสารสองทาง สามารถโต้ตอบทางกล่องข้อความ หรือสนทนาแบบเรียลไทม์เป็นการสื่อสารโต้ตอบอย่างเต็มรูปแบบ การทำเว็บไซต์ต้องมีช่องทางการสื่อสารหลายรูปแบบเพื่อให้ผู้ใช้สอบถามข้อมูล สั่งจองสินค้า ดาวน์โหลดเอกสาร ตลอดจนประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นต่าง ๆ ในอนาคต

ทุกวันนี้การทำธุรกิจล้วนอาศัยอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือการทำตลาดที่มีประสิทธิภาพ โดยเน้นข้อมูลเป็นส่วนประกอบสำคัญ สร้างความมั่นใจและพึงพอใจให้ลูกค้า หากออกแบบเว็บไซต์ได้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น ก็จะรับประกันความสำเร็จของธุรกิจได้ระดับหนึ่ง เนื่องจากธุรกิจขนาดเล็กมีคู่แข่งจำนวนมาก ถ้าละเลยความสำคัญตรงจุดนี้ ลูกค้าเข้ามาแล้วเห็นว่าเว็บไม่น่าสนใจก็เสี่ยงที่จะโดนกดปิดตั้งแต่เห็นหน้าแรก แต่ถ้าออกแบบได้ดีจะสร้างความได้เปรียบให้ธุรกิจเกิดใหม่ของคุณได้ทันที

ปัจจุบันการซื้อสินค้าและบริการผ่านเว็บไซต์ออนไลน์เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากความรวดเร็วของเทคโนโลยีและความกว้าไกลของเครือข่ายโทรศัพท์ การออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงาม เพื่อให้ได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก จึงสำคัญต่อยอดจำหน่ายที่สูงขึ้นและส่งผลให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยาวนาน

ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมวิธีการออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงามมาฝากกันเพื่อให้ทุกท่านได้นำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม

1. ควรเน้นภาพลักษณ์เรียบหรูและทันสมัย การออกแบบเว็บที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าส่วนใหญ่ควรเน้นโทนสีที่ดูแล้วสบายตา ไม่ฉูดฉาดมากเกินไป ควรมีสีที่เป็นเอกลักษณ์ประจำอยู่ 2 หรือ 3 สี เพื่อช่วยให้เป็นที่จดจำและดูทันสมัยอยู่เสมอ เช่น แดง เทา ขาว ซึ่งธีมนี้ควรครอบคลุมถึงสีที่ใช้ในคลิปวีดีโอ แนวทางการถ่ายภาพ เสื้อผ้าของผู้บรรยายในคลิป ฯลฯ ที่ควรเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้คนจำได้

2. ไม่ติดป้ายโฆษณากระจายทั่วไป ควรมีแถบการประชาสัมพันธ์เป็นหมวดหมู่ ที่ไม่รบกวนสายตาผู้อ่าน ขณะกำลังทำความเข้าใจเนื้อหา ถ้าต้องโฆษณาแทรกในบทความควรมีเพียง 1-2 โฆษณาเท่านั้น เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญและไม่อยากมาใช้บริการได้

3. ทำคลิปวีดีโอประกอบการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าประวัติความเป็นมาของบริษัท การนำเสนอวิธีการใช้สินค้า เช่น การใช้เครื่องปั่นแยกกากกาแฟสด เครื่องปั่นน้ำผลไม้ เครื่องทำไอศกรีมแบบพกพา ฯลฯ หากทำเป็นคลิปวิดีโอสวย ๆ ก็จะมีความน่าสนใจมากกว่าการอธิบายเป็นข้อความยาว 500-1000 คำ ทั้งนี้ หากไม่สะดวกทำคลิปก็ต้องศึกษาเทคนิคการถ่ายรูปในมุมต่าง ๆ ให้สวยงามสำหรับใช้ประกอบกับบทความก็ได้ ที่สำคัญ คือ ควรมีแนวทางของการเขียนที่ชัดเจน มีความถูกต้องของข้อมูล มีแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายรู้สึกเชื่อมั่นและอยากซื้อสินค้าหรือใช้บริการเว็บไซต์มากขึ้น

4. เว็บไซต์ที่ดีควรรองรับการแสดงผลทั้งโทรศัพท์มือถือและหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการใช้สั่งซื้อหรือหาข้อมูลสินค้า ผู้ออกแบบเว็บไซต์จึงควรเน้นความง่ายในการคลิกหาข้อมูล การสร้างปุ่มสั่งสินค้าหรือสอบถามเพิ่มเติมให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกมากขึ้น และอาจเพิ่ม Chatbot ที่เป็นระบบ AI ในการตอบคำถามอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการเพิ่มภาพลักษณ์ที่ทันสมัยให้เว็บไซต์ด้วย

จะเห็นได้ว่า การออกแบบเว็บให้สวยงาม มีหลักการที่ควรมีหลักการหลายอย่างที่ควรนำมาผสมผสานปรับใช้ร่วมกัน เพื่อทำให้เว็บไซต์มีเอกลักษณ์และเข้ากับสินค้าและบริการของคุณ ขณะเดียวกันก็ควรทำการศึกษาวิจัยว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณมีพฤติกรรมการบริโภคอย่างไร จะได้เลือกการดีไซน์เว็บไซต์ให้สอดคล้องกับความนิยมของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด

การออกแบบเว็บไซต์ให้ดูดี เหมือนกับการจัดหน้าร้านเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาชมสินค้า เราจึงได้รวบรวมเทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงามดึงดูดให้ลูกค้าของคุณเพิ่มขึ้นได้อย่างเห็นผล เพียงแค่ทำตาม 4 วิธีต่อไปนี้

1 . ทำโครงสร้างให้ดูเรียบง่าย มีสัดส่วนที่เหมาะสม แต่ก็ดูทันสมัย เช่น ชื่อแบรนด์และโลโก้ ขนาดใหญ่ไม่เกิน 1 ใน 3 ของพื้นที่ สำหรับบทความและแคตตาล็อกควรชัดเจนด้านซ้ายมือของจอ ส่วนประวัติของบริษัทและทีมงาน ช่องทางการติดต่อ เช่น อีเมล์ และ chatbot ควรจะอยู่ในโซนเดียวกัน

ถ้ามีโฆษณา ก็ต้องจัดเป็นหมวดหมู่ ไม่มาปะปนกับส่วนของความรู้หรือข้อมูลทางเทคนิคของสินค้า การทำแบบนี้จะทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกสับสน ใช้บริการง่าย รู้สึกประทับใจจนอยากกลับมาใช้บริการอีก

2. การเลือกของฟอนต์ตัวอักษร แนวทางการผลิตมัลติมีเดียประกอบการขายที่จะต้องผลิตออกมาให้แนวทางไปในแบบเดียวกัน เช่น คุณผลิตสินค้าแนวแฟชั่น ก็ควรจะเลือกสีที่ให้ความรู้สึกมีพลัง มีแรงดึงดูด เช่น สีแดง ซึ่งยังทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นตื่นตัวในการที่จะค้นหาสินค้าอื่น ๆ เพิ่มเติมในเว็บไซต์ต่อไปเรื่อย ๆ

หากคุณเป็นองค์กรที่เน้นบริการเป็น Web Hosting ต้องการความน่าเชื่อถือและดูทันสมัย ก็ควรเลือกใช้สีน้ำเงินเข้มที่สื่อถึงความมั่นคง ความเป็นมืออาชีพ และเรื่องของเทคโนโลยีด้วย การเลือกสีสันที่เหมาะสมจะทำให้เว็บไซต์ของคุณและมีความโดดเด่นและก็เป็นที่จดจำได้ดียิ่งขึ้น

3. สินค้าของคุณต้องนำเสนอให้น่าสนใจ เมื่อลูกค้าเปิดหน้าต่างแรกของเว็บไซต์บริษัทคุณ ลูกค้าต้องสามารถรู้ได้ในทันทีว่าบริษัทของคุณขายอะไร ไม่ควรจะมีภาพของโฆษณาเต็มไปหมด เพราะจะทำให้ลูกค้าเกิดความรำคาญและทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรไม่ชัดเจน

สินค้าและบริการต่าง ๆ ต้องมีรูปถ่ายที่ทำขึ้นเองจากของจริง พร้อมรายละเอียดเนื้อหาที่ชัดเจน เช่น ถ้าเป็นสินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด มือถือ ฯลฯ ก็ต้องมีเรื่องของสเปคของเครื่อง รุ่น คุณสมบัติของ Ram – Rom ให้ชัดเจน จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจถึงความเป็นมืออาชีพของเว็บไซต์คุณได้

4. การนำเสนอบทความหรือเนื้อหาในหน้าแรกต้องกระชับพอดี ข้อความครบถ้วนข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์ ไม่จำเป็นต้องทำเป็นบทความยาวเสมอไป แต่ควรมีความครบถ้วนในตัวเอง เขียนให้กระชับ ซึ่งจะแสดงถึงเทคนิคในการผลิตบทความ เพื่อให้ลูกค้าอ่านได้เข้าใจในเวลาที่สั้นที่สุด

จะเห็นได้ว่าเทคนิคทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมา เป็นการออกแบบเว็บไซต์ที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ ถ้าคุณสามารถทำได้และควบคุมคุณภาพบทความให้สม่ำเสมอ รวมถึงการผลิตสินค้าและบริการที่ประทับใจลูกค้าต่อเนื่อง ก็ทำให้มีลูกค้าไหลมาเทมาอย่างแน่นอน

การออกแบบเว็บไซต์ด้วยตัวเองจะช่วยให้ได้เว็บไซต์ที่สวยงามและถูกใจตัวเองมากที่สุด และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างคนทำเว็บไซต์ได้ ในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมการออกแบบเว็บไว้ให้เป็นแนวทางการออกแบบเว็บไซต์ให้สวยด้วยตัวเองมาฝากกัน ดังนี้

1. เริ่มจากการเตรียมข้อมูลเพื่อให้รู้ว่าในเว็บไซต์ของคุณจะต้องมีส่วนประกอบสำคัญอะไรบ้าง เช่น ถ้าทำร้านขายดอกไม้ออนไลน์ ก็ควรมีข้อมูลว่าจะนำเสนอส่วนบทความ เช่น วิธีการเลือกดอกไม้สำหรับผู้รับช่อดอกไม้ในโอกาสต่าง ๆ ความหมายของสีดอกไม้ที่เหมาะสำหรับการให้ในเทศกาลต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งนี้จะต้องมีช่องการให้บริการเลือกชนิดดอกไม้และภาชนะใส่เอง รวมถึงส่วนของการติดต่อกับร้าน เพื่อการชำระเงินด้วย

2. การเลือกประเภทของเว็บไซต์ เช่น ธุรกิจบางประเภทนั้นจะเน้นเรื่องของการให้ข้อมูลเพื่อให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการใช้บริการ แบบนี้จะเรียกว่า Web Branding ส่วนเว็บไซต์ที่เน้นเรื่องของการขายสินค้า ต้องการกระตุ้นการขายด้วยการโฆษณาและโปรโมชั่น จะเป็นแนว E-commerce ก็จะดีไซน์หน้าเว็บไซต์ที่แตกต่างกันไป

3.ปัจจุบัน มีการใช้งานอินเตอร์เน็ตทั้งในส่วนของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโทรศัพท์มือถือ ก็ควรจะต้องออกแบบเว็บไซต์ให้สามารถใช้ได้กับทั้งอุปกรณ์หลายชนิดด้วย

4. กำหนดทิศทางในการออกแบบสไตล์การเขียน วิธีการทำภาพคลิปวิดีโอที่ควรจะเป็นแนวทางเดียวกัน ซึ่งสามารถที่จะหารูปประกอบจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงินได้

5.การวางแผนผังในแต่ละหน้าเพจ ว่าจะแบ่งออกเป็นกี่คอลัมน์ ส่วนใดควรเน้น ที่จะทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใช้งานเว็บไซต์ได้ง่ายที่สุด ที่สำคัญคือต้องติดต่อสั่งซื้อสินค้าง่าย เพราะเป็นวัตถุประสงค์หลักในการเปิดเว็บไซต์ออนไลน์

6. การมีโลโก้ประจำเว็บไซต์ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องออกแบบอย่างละเอียด เพราะต้องใช้ไปนาน ซึ่งโลโก้ควรจะแสดงทั้งที่ด้านบนหน้าแรกของเว็บไซต์ และกระจายในจุดต่าง ๆ ของเพจ ซึ่งอาจทำเป็นโลโก้สีเข้มกับสำหรับใช้กับพื้นสีอ่อน ก็จะทำให้ลูกค้าจดจำได้ง่ายขึ้น

7.  เลือกชนิดฟ้อนต์ตัวอักษรที่เหมาะสมกับโลโก้และเนื้อหาในเว็บไซต์ด้วย โดยถ้าเป็นเว็บไซต์ที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือ ก็ควรใช้ตัวอักษรที่มีหัวและหางชัดเจน ตัวอักษรไม่เขียนหวัดจนเกินไป เป็นต้น ซึ่งจะออกแบบด้วยตัวเองหรือจะใช้ตัวอักษรที่มีการออกแบบใหม่ ๆ และมีการขายในเว็บไซต์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษก็ได้

จะเห็นได้ว่า การออกแบบเว็บไซต์เป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ ซึ่งนักธุรกิจออนไลน์ควรศึกษาพื้นฐานและฝึกฝนบ่อย ๆ เพื่อที่จะทำให้เว็บไซต์ออกมาสวยงาม ดึงดูดใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้การทำธุรกิจออนไลน์ประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น

การขายสินค้าและบริการในยุคปัจจุบันที่ประสบความสำเร็จมียอดขายสม่ำเสมอและมีฐานลูกค้าที่กว้าง จำเป็นต้องใส่ใจทั้งตัวสินค้าและการออกแบบเว็บไซต์ที่มีความโดดเด่น และโดนใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะต้องมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้

รูปประกอบของสินค้า

โอกาสในการขายจะลดลงอย่างแน่นอน หากเว็บไซต์ของคุณไม่มีรูปสินค้าประกอบ ซึ่ง ต้องคำนึงถึงคุณภาพของรูปด้วยว่าต้องมีความละเอียดสูง สามารถซูมขยายขนาดได้มาก จน ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นรายละเอียดให้ได้มากที่สุด โดยในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถเห็นสินค้าหมุนได้อย่างรอบด้าน 360 องศา ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเห็นภาพไม่ต่างจากการหยิบจับเลือกชมสินค้าในร้านค้าจริงด้วยตัวเอง

สีสันที่มีธีมชัดเจน

หากคุณสังเกตจะพบว่าแบรนด์สินค้าและบริการที่โดดเด่นจะมีการใช้ธีมสีที่ชัดเจน เช่น เอ็มเคสุกี้จะเป็นสีแดงเขียว ไอศกรีมเซเวนเซ่นจะเป็นสีแดง เครือข่ายโทรศัพท์ DTAC จะเป็นสีฟ้า AIS จะเป็นสีเขียว เป็นต้น การออกแบบเว็บไซต์ให้มีธีมสีที่ชัดเจน แลดูเรียบง่ายสไตล์มินิมอล (minimal) จะทำให้ลูกค้าจดจำง่ายและทำให้เกิดเอกลักษณ์ที่ไม่สามารถแทนได้ด้วยแบรนด์ใด ๆ

การมีเรื่องราวหรือ story ในเว็บไซต์

ในเนื้อหาควรมีส่วนของ story ที่เป็นการสร้างคุณค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ เช่น กาแฟสดแต่ละแบรนด์ที่ต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในแหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟ กระบวนการคั่ว หรือสกัด ฯลฯ ยิ่งเรื่องราวที่แสดงถึงความยากลำบากในการใช้ทรัพยากรดิน น้ำ ภูมิอากาศ เช่น ต้องปลูกที่ดินในดอยทางภาคเหนือของประเทศที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้อยู่ในเกณฑ์ จึงจะได้ผลผลิตที่คุณภาพดีที่สุด ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเห็นถึงความแตกต่างที่เป็นจุดขายสำคัญของสินค้า

การเลือก font ตัวอักษรที่เป็นเอกลักษณ์

Font ตัวอักษรที่ใช้ในเว็บไซต์ ต้องมีความสัมพันธ์สอดคล้องกับสินค้าหรือบริการที่จะขาย เช่น สินค้าแนววินเทจ แนวหวานใสโรแมนติก เช่น ดอกไม้ เดรสผู้หญิง ควรใช้ตัวอักษรที่มีความอ่อนช้อยมีความหนาและบางที่สื่อความหมายถึงความอ่อนโยน ส่วนบริการที่ต้องการความน่าเชื่อถือ เช่น บริษัททัวร์ หรือจองห้องพักต่างประเทศ ก็ควรใช้ font ที่มีความเป็นทางการและมีลักษณะเป็นตัวพิมพ์ ไม่ใช่ตัวเขียนหวัด หรือมีลายเส้นเชื่อมต่อระหว่างแต่ละตัวอักษร อันจะทำให้การอ่านตัวสะกดผิดพลาด และสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนแก่ลูกค้าได้

การออกแบบเว็บไซต์จึงเป็นการผสมผสานความรู้และศิลปะในการสื่อสารเรื่องราวของสินค้าของบริษัทไปยังกลุ่มเป้าหมาย ที่ผู้รับหน้าที่นี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าที่ต้องการลงมือเองทุกกระบวนการ หรือนักออกแบบมืออาชีพ freelance ที่มีประสบการณ์หลายปี ต่างไม่ควรหยุดนิ่งที่จะพัฒนาฝีมือให้ได้ผลงานที่โดนใจลูกค้าอยู่เสมอ

ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าการขายสินค้าทางออนไลน์เป็นที่นิยมมาก และมีการแข่งขันที่สูงมากด้วย ดังนั้นการออกแบบเว็บไซต์ให้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มยอดขายและผลกำไรจึงไม่ใช่เรื่องง่าย และนี่คือ 7 เทคนิค การออกแบบเว็บไซต์ให้มีสีสันและเพิ่มยอดขายที่เราได้รวบรวมมาฝากกัน

1. ดีไซน์ให้มีความเป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ที่สำคัญคือต้องสอดคล้องกับแนวคิดของบริษัท เช่น หากเน้นความเป็นธรรมชาติ รักษ์สิ่งแวดล้อม ก็ควรเลือกสีสันแบบเขียวใบไม้ สีใบตอง ร่วมกับสีของดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและสะอาด

2. การเลือกฟ้อนต์ตัวอักษร ก็ต้องสื่อถึงอารมณ์ที่เหมาะสมกับสินค้าและบริการที่ต้องการนำเสนอ เช่น สินค้ากลุ่มวิตามินและอาหารเสริม ควรใช้ฟ้อนต์ที่มีความเป็นวิชาการ อ่านแล้วสบายตา มีความน่าเชื่อถือสูง ไม่ควรใช้ฟ้อนต์ตัวอักษรที่เป็นลักษณะตัวเขียนที่หวัดจนเกินไป

3. การออกแบบเว็บไซต์ ควรเลือกใช้ธีมหรือโทนสีตามเพศของกลุ่มเป้าหมาย เช่น เพศชาย นิยมใช้สีน้ำเงิน ดำ ฟ้าคราม ส่วนเพศหญิง นิยมใช้สีชมพู หรือ เหลือง ครีม เป็นต้น ทั้งนี้ แม้ไม่มีกฎตายตัวในการใช้สี แต่สามารถสังเกตได้ว่า คนส่วนใหญ่จะมีความเข้าใจในแบบเดียวกันซึ่งช่วยให้เว็บไซต์สามารถสื่อถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

4. สินค้าที่นำมาขายเป็นประเภทใด เช่น กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่ควรทำเว็บไซต์ให้เป็นโทนมืด หรือมีสีน้ำตาลเข้มมากเกินไป เนื่องจากชวนให้รู้สึกเศร้าและไม่กระตุ้นความรู้สึกอยากอาหาร ควรเน้นสีส้ม สีเหลือง สีเขียว ฯลฯ หากนึกไม่ออก ลองนึกภาพผักผลไม้ ที่มีสีสันแทบครบเจ็ดสีสายรุ้งเลยก็ว่าได้

5. ควรจัดวางตำแหน่งของ Banner และองค์ประกอบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงของผู้ชมหน้าเว็บไซต์ เช่น แคตตาล็อคอยู่ทางด้านซ้ายมือ แถบให้ความช่วยเหลืออยู่ที่ด้านขวามือล่าง หากมีโปรโมชั่นสินค้ากลุ่มใด ควรติดดาวไฟกระพริบที่บางจุดให้โดดเด่น พอจะกระตุ้นการขาย แต่ทั้งนี้ต้องระวังไม่ทำให้แลดูรกรุงรัง หรือเกะกะหน้าเว็บไซต์จนเกินไป

6. เพิ่มสื่อที่เป็นภาพเคลื่อนไหว เช่น มัลติมีเดีย คลิปวิดีโอ ทั้งจากการแชร์ต่อหรือการถ่ายทำเอง (เป็นลิขสิทธิ์ของเว็บไซต์) เพื่อดึงดูดใจผู้ชมยิ่งขึ้น

7. มีภาพสินค้าจริง ที่เพิ่มความน่าเชื่อถือ ลองเปรียบเทียบง่าย ๆ ว่าระหว่างสองเว็บไซต์ที่มีรูปสินค้าในสถานที่จริง กับ เพียงภาพถ่ายในสตูดิโอ ลักษณะแบบที่เคยเห็นทั่วไปตามสื่อโฆษณา อย่างใดจะน่าเชื่อถือมากกว่ากัน

จะเห็นได้ว่าการออกแบบเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและสามารถดึงดูดใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้นั้น จำเป็นต้องผ่านการคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ รวมถึงต้องอาศัยประสบการณ์ด้านการตลาดเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ถูกใจกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งช่วยให้ได้ยอดจำหน่ายสูงขึ้นตามมาด้วย